วันนี้ลองหาโปรแกรมแต่งภาพแบบใช้งานฟรีๆมาลองเล่นดู ปรากฎว่าไปเจอเจ้าโปรแกรม Photopea.com ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับโปรแกรม Photoshop เป็นอย่างมาก (ตามภาพตัวอย่าง) และเป็นโปรแกรมออนไลน์อีกด้วย เราไม่ต้องดาวน์โหลดมาติดตั้งในเครื่องเลย สามารถใช้งานแบบออนไลน์ได้เลย
ฟังค์ชั่นการทำงานของเจ้า Photopea นี้ ก็ถือว่าเป็นโปรแกรมแต่งรูปกราฟฟิค ตัดแต่ง ตัดต่อ รีทัชหรือทำงานอะไรต่างๆเกี่ยวกับงานกราฟฟิคได้เหมือนๆกับตัว Photoshop เลย ถ้าใครที่คุ้นเคยกับการใช้งาน Photoshop อยู่แล้ว มาใช้โปรแกรมนี้ก็ถือว่าแทบจะไม่ต้องเรียนรู้เมนูและฟังค์ชั่นต่างๆเลย สามารถเริ่มใช้งานได้เลย
คุณสมบัติและข้อดีของ Photopea : Photoshop Online
– หน้าตาต่างๆ เหมือน Photoshop เลย ทำให้ใช้งานได้ง่าย
– รองรับไฟลล์ได้หลายชนิด เช่น png, jpeg, svg, gif, pdf, emf, webp, bmp, ppm, tiff, ico, dds
– เป็นโปรแกรมแบบไม่ต้องติดตั้งลงเครื่อง แค่มีเนตก็ใช้งานได้เลย
– มีทั้งแบบฟรี (มีข้อจำกัดการใช้งาน) และแบบเสียตังค์
– มีระบบลอคอินสมาชิก ที่สามารถไปลอคอินเครื่องไหนก็ได้
– รองรับทั้ง windows และ iOS
– มีระบบ short cut เมนูให้ใช้ด้วย
ข้อเสียของ Photopea : ก็พอมีบ้าง แต่อยู่ในระดับที่ไม่มากนัก
– เป็นระบบออนไลน์ กล่าวคือ ไม่มีเนต ก็ใช้ไม่ได้
– อาจจะมีค้างๆ หน่วงๆ บ้างในตอนใช้งาน ซึ่งขึ้นกับประสิทธิภาพของเนตและ browser เองด้วย
– มีการจำกัดการใช้งานบางส่วนไว้ (สำหรับให้เราเสียเงินเช่า) และมีโฆษณารบกวนสายตา (นิดหน่อย)
เวอร์ชั่นแบบใช้ฟรี ก็มีโฆษณาอยู่แถบด้านข้าง แต่ตอนใช้งานจริงบนคอมพิวเตอร์ก็ไม่ได้รบกวนอะไรมากนัก
แต่ถ้าหากอยากใช้งานแบบเต็มที่ขึ้น ก็มี 2 วิธี คือ
1. สมัครสมาชิกเลย ก็สมัครฟรีเหมือนเดิม แต่เราจะได้การตั้งค่า (setting) ต่างๆในโปรแกรมเหมือนเดิม และสามารถไปลอคอินจากเครื่องไหนก็ได้ การตั้งค่าต่างๆก็จะออกมาเหมือนเดิม ทำให้การใช้งานคล่องตัวขึ้น สำหรับมือเทพๆทั้งหลาย
2. ใช้แบบจ่ายตังค์เลย ก็ตกเดือนละ 9 ดอลล์ เราก็จะได้สิทธิใช้ History ในโปรแกรมได้ 60 รายการ (ถ้าแบบฟรี ก็ได้แค่ 30 รายการ) และที่สำคัญ คือ จะไม่มีโฆษณามากวนใจอีกต่อไป แต่นิดนึงก็คือ สำหรับราคา 9 ดอลต่อเดือนนี้ ก่อนที่เราจะซื้อมาใช้งานก็อย่าลืมลองเชคราคาของตัว photoshop รายเดือนด้วยละกันนะครับ จะได้เปรียบเทียบกันก่อนที่จะจ่ายเงินใช้งานจริง
สรุปแล้ว Photopea ก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่เราสามารถนำมาใช้งานตกแต่งภาพได้ ซึ่งก็ดีตรงที่ว่าหน้าตามันคล้ายๆกับ photoshop เป็นอย่างมาก ก็เลยเรียนรู็การใช้งานได้ง่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเราต้องการโปรแกรมแต่งภาพแบบจริงจังก็อยากแนะนำให้ใช้พวกโปรแกรมแต่งภาพฟรีต่างๆ ที่มีแจกกันแบบถูกลิขสิทธิ์จะดีกว่า เช่น GIMP, Inkscape, Krita เป็นต้น