เริ่มด้วยการติดตั้งตัวFileZillaClientหลังจากที่เราไป download ไฟล์ติดตั้งมาจากเว็บแล้ว ก็สามารถกดติดตั้งได้เลย ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้แล้ว
1. เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมา เราก็ไปตั้งค่า login ต่างๆได้ที่เมนูที่เป็นตัวจัดการโฮสต์ (ด้านซ้ายบนๆ) ซึ่งเราสามารถที่จะบันทึกรายละเอียดการ login เข้า server เช่น user name, password และ IP รวมถึงการตั้งค่าพิเศษต่างๆได้
2. หน้าจอก่อนที่จะ login เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานกับ server ไหน และเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อ/การรับส่งไฟล์ได้ (รายละเอียดเมนูที่ใช้บ่อยๆ ตามที่วงไว้ในภาพ)
3. เมื่อเรา login สำเร็จแล้ว ก็จะได้หน้าตามาประมาณในภาพ จะเห็นว่าใช้ระบบ file manager ทั้ง 2 ฝั่งเลย ทั้ง client และ server ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาใช้งานง่ายดี และเมื่อจะ upload หรือ download ไฟล์ ก็เพียงแค่ ลากจากต้นทางไปวางตรงปลายทาง ก็เป็นอันเสร็จ จะลากทีละไฟล์หรือทั้ง folder ก็ได้ ตัวโปรแกรมจะจัดการให้หมด และเราสามารถดูลำดับคิวได้ที่ด้านล่างของหน้าจอว่าถึงคิวไหนแล้ว เหลืออีกกี่ไฟล์ หรือมีไฟล์ไหนที่ทำไม่สำเร็จ และสามารถกลับมาทำต่อได้
4. การใช้ FileZilla ผ่านพอร์ต proxy ก็สามารถทำได้โดยไปที่เมนู แก้ไข => การตั้งค่า แล้วเลือก การเชื่อมต่อ => Generic Proxy และทำการเซตค่าในช่องว่างได้เลย
5. การตั้งค่าภาษา ให้ไปที่เมนู แก้ไข => การตั้งค่า แล้วเลือก Interface => ภาษา แล้วเลือกเปลี่ยนภาษาได้เลย จะใช้ภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ หรือภาษาอื่นๆก็ได้ หลังจากเปลี่ยนภาษาแล้ว ก็ให้ restart โปรแกรมหนึ่งครั้ง ก็จะใช้งานได้ หากเซตแล้วมีปัญหาด้านภาษา ได้ภาษาออกมาเป็นภาษาต่างดาว ก็ให้เปลี่ยนกลับเป็นภาษาที่ใช้ล่าสุดแทน หากยังไม่ได้อีก ก็แนะนำให้ลงโปรแกรมใหม่เลย
ในบางครั้ง หากใช้แล้วมีปัญหาหรือพบ error ขึ้น ให้ลองอ่านเรื่อง รวมคำถามและปัญหาที่มักจะเจอเมื่อใช้ FileZillaClient – FTP
สรุปแล้วตัวโปรแกรม FileZillaClient นั้น ถูกทำออกมาในรูปแบบที่ใช้งานได้ง่าย แล้วระบบ graphic interface ที่เรียบง่าย แต่มีฟังค์ชั่นที่ครบถ้วน ทั้งแบบ basic และ anvanced รวมถึงสามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้เยอะดีอีกด้วย นับว่าเป็นโปรแกรม FTP Client ที่น่าจะมีไว้ประจำเครื่องอีกหนึ่งตัวเลยทีเดียว